จะ เลี้ยงไส้เดือนดิน อย่างไรให้รอดตลอดทั้งปี

 

จะ เลี้ยงไส้เดือนดิน อย่างไรให้รอดตลอดทั้งปี ?

การเลี้ยงไส้เดือนดินเพื่อผลิตปุ๋ยให้เรา จริงๆ แล้วการเลี้ยงไส้เดือนดินไม่มีอะไรยากเลย แค่เราเข้าใจลักษณะนิสัยของไส้เดือนดินแต่ละสายพันธุ์ที่เราเลี้ยงอยู่ และดูแลปัจจัยหลัก 4 อย่าง ดังนี้

1. เบดดิ้ง / ที่อยู่ที่กินของไส้เดือนดิน

เบดดิ้งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการเลี้ยงไส้เดือนดินเลยก็ว่าได้ กระบวนการเตรียมรวมทั้งการได้แหล่งวัตถุดิบที่ดี สำหรับวิธีการเตรียมเบดดิ้งที่นิยมกัน คือ แบบหมัก / precompost และแบบแช่น้ำ จะได้ค่าธาตุอาหารที่สมบูรณ์แตกต่างกัน ซึ่งเบดดิ้งที่ดีต้องมีความโปร่ง ความชื้นที่พอเหมาะ ไม่เกิดความร้อนหรือเกิดแก๊สขึ้นอีก

2. ความหนาแน่น / ปริมาณของไส้เดือนดิน

ปริมาณของไส้เดือนดินที่ปล่อยลงไปในเบดดิ้งนอกจากจะมีผลต่อระยะเวลาในการกินแล้ว ยังมีผลต่ออุณหภูมิภายในภาชนะเลี้ยงอีกด้วย หากปล่อยไส้เดือนดินลงไปเลี้ยงในปริมาณที่มากเกินไป จะเจอปัญหาไส้เดือนขึ้นมาอยู่บนผิวเบดดิ้ง หรือคลานออกจากภาชนะเลี้ยง

3. สถานที่ / โรงเรือนที่เหมาะสม

สำหรับสถานที่เลี้ยงที่เหมาะสมแก่การเลี้ยงไส้เดือนดินจะต้องมีอากาศถ่ายเทได้สะดวกเย็นสบาย และแสงสลัวๆ หากสามารถจัดสถานที่เลี้ยงใต้ร่มไม้ใหญ่ได้ก็จะดีมาก แต่ต้องมีหลังคาไว้สำหรับกันฝนด้วย

4. สภาพอากาศ / อุณหภูมิที่เหมาะสม

สำหรับสายพันธุ์ไส้เดือนดินที่นิยมเลี้ยงเป็นอันดับต้นๆ คือ AFRICAN NIGHTCRAWLERS เป็นไส้เดือนดินสายพันธุ์ที่อ่อนไหวต่อสภาพอากาศบ้านเรามากที่สุด จึงจำเป็นต้องควบคุมเรื่องอุณภูมิที่เหมาะสมที่สุด

ประเทศไทยมี 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว...

ฤดูร้อน - จะอยู่ในช่วงระหว่างกลางเดือนกุมภาพันธุ์ไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม

ฤดูฝน - จะอยู่ในช่วงระหว่างกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม

ฤดูหนาว - จะอยู่ในช่วงระหว่างกลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธุ์

การ เลี้ยงไส้เดือนดิน ในช่วงฤดูร้อน 

อุณหภูมิระหว่าง 35-40 ํC ขึ้นไป

เป็นช่วงที่ไส้เดือนดินสายพันธุ์บลูเวิร์ม / ไส้เดือนสีน้ำเงิน ค่อนข้างเจริญเติมโตได้ดี เนื่องจากมันเป็นไส้เดือนดินในเขตร้อนบ้านเรา แต่ก็ถือว่าเป็นช่วงที่หนักหน่วงที่สุดสำหรับการเลี้ยงไส้เดือนดิน โดยเฉพาะสายพันธุ์เอเอฟมักเจอปัญหาขึ้นมาอยู่บนผิวหน้าเบดดิ้ง ตัวเริ่มเปื่อยตาย บางตัวจะตัวขาดและทยอยตายไปเรื่อยๆ 

- แนะนำให้ลดปริมาณการเลี้ยงเพื่อให้ความหนาแน่นลดลง

- เบดดิ้งก็ไม่ต้องบี้ให้ละเอียดมาก ให้เป็นก้อนๆ บ้าง ช่วยให้เวลาเอามาใช้เลี้ยงอากาศสามารถถ่ายเทก็ดีขึ้น 

- ขยายพื้นที่เลี้ยงให้ไส้เดือนดินด้วยการเปลี่ยนภาชนะเลี้ยงให้ใหญ่ขึ้น

เลี้ยงในกะละมังขนาดที่ใหญ่ขึ้น 

เลี้ยงในภาชนะที่โปร่งมากขึ้น

เลี้ยงบนพื้น

เลี้ยงในกระบะไม้

 

สำหรับเบดดิ้งไม่ต้องหนามาก แนะนำใส่เบดดิ้งหนาไม่เกิน 15 เซนติเมตร และหมั่นสเปร์ยน้ำเพื่อรักษาความชื้น และบริเวณรอบๆ สถานที่ ภาชนะเลี้ยง ช่วงเวลาที่ควรรดน้ำคือช่วงเช้าก่อนพระอาทิตย์ส่องแสง ช่วยให้อุณหภูมิลดลงได้ ไม่ทำให้เกิดความร้อนสะสม 

การผสมขุยมะพร้าวเพื่อช่วยเพิ่มความโปร่งให้กับเบดดิ้งในอัตราส่วน 2:1 คือ มูลวัว 2 ส่วน ขุยมะพร้าว 1 ส่วน การให้อาหารเสริมที่ช่วยเพิ่มความชื้นได้มากขึ้นอย่าง แตงโม มะละกอ หยวกกล้วยสับ เป็นต้น 

การ เลี้ยงไส้เดือนดิน ในช่วงฤดูฝน

อุณหภูมิระหว่าง 24-32 ํC

สำหรับฤดูฝนเป็นช่วงที่ไส้เดือนดินสายพันธุ์เอเอฟชอบ สามารถกินอาหารและขยายพันธุ์ได้ดี อาจเจอปัญหาไส้เดือนไต่ออกมาจากภาชนะเลี้ยง เนื่องจากอุณหภูมิภายนอกเย็นกว่า แต่จะเจอปัญหาหลักๆ เรื่องแหล่งวัตถุดิบที่นิยมนำมาทำเป็นเบดดิ้งอย่างมูลวัวตากแห้งขาดแคลน เนื่องจากฟาร์มเลี้ยงวัวไม่สามารถนำมูลออกมาตากแดดได้ ฤดูฝนจึงแนะนำให้คนเลี้ยงไส้เดือนตุนมูลวัวเอาไว้ และเตรียมสถานที่เลี้ยงให้เหมาะสมเพื่อป้องกันฝนสาดลงเบดดิ้งจนทำให้แฉะมากจนเกินไป 

การ เลี้ยงไส้เดือนดิน ในช่วงฤดูหนาว

อุณหภูมิระหว่าง 8-16  ํC

เป็นช่วงฤดูที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงไส้เดือนสายพันธุ์ไทเกอร์ และสายพันธุ์ยูโร เนื่องจากมันคือไส้เดือนดินสายพันธุ์เขตหนาวหรือเขตอบอุ่น มีความทนทานต่อสภาพอากาศได้ดีตั้งแต่ 0-40 ํC ซึ่งฤดูนี้จะสร้างปัญหาให้กับไส้เดือนสายพันธุ์เอเอฟ และบลูเวิร์ม เริ่มกินช้าลงโดยเฉพาะเจ้าสายพันธุ์เอเอฟ เนื่องจากที่เคยกล่าวไว้ว่ามันจะมีจุดเด่นตรงที่กินเก่ง สามารถผลิตมูลให้ได้จำนวนมากในระยะเวลาอันรวดเร็วก็ตาม แต่มันเป็นไส้เดือนดินที่มีความอ่อนแอ อ่อนไหวต่อสภาพอากาศบ้านเรามากที่สุด เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิที่ประมาณ 13-14 ํC ไส้เดือนสายพันธุ์นี้ก็จะเริ่มทยอยขึ้นมาตายบนหน้าเบดดิ้ง (อีกแล้วววว) 

สำหรับการเลี้ยงไส้เดือนในช่วงฤดูหนาว แนะนำให้เพิ่มปริมาณความหนาแน่นของไส้เดือนให้มากขึ้นจากปกติ 2 ขีดเป็น 3 ขีด ต่อการเลี้ยงไส้เดือน 1 กะละมัง หรือจะเพิ่มปริมาณเบดดิ้งให้หนาขึ้นด้วยก็ได้ รดน้ำช่วงเย็น (ใช้หัวสเปร์ยหมอกให้น้ำเพื่อรักษาความชื้นหน้าเบดดิ้งเท่านั้น) งดการให้อาหารเสริมที่ให้ความชื้นสูงอย่างแตงโมง สำหรับเทคนิคการทำให้เบดดิ้งอุ่นขึ้น และไส้เดือนอยู่รอดไปได้ในช่วงฤดูหนาวมีหลายวิธีด้วยกัน แต่ขอแนะนำให้ใช้รำข้าวประมาณ 1 กำมือหว่านลงไปหน้าเบดดิ้ง จะช่วยทำให้เบดดิ้งมีอุณหภูมิที่อุ่นขึ้น เอาสแลนคลุมเพื่อป้องกันลมหนาวหรือใช้แผงไข่กระดาษ กระดาษลัง วางหน้าเบดดิ้งก็ได้

เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ : www.ewmfarm.com